Ram สำคัญหรือไม่ (มือถือ)
Ram หรือ อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ ความจำชั่วคราว นั้นเอง ถ้าใครเข้าใจอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ มือถือทุกวันนี้ก็จะไม่ค่อยต่างอะไรกันแล้วครับ แล้ว Ram มันมีความจำเป็นอะไรถึงต้องให้ความสำคัญมันนักละ ผมจะบอกให้เลยครับว่า มันก็เหมือนกับคนเรานี้ละครับ ถ้าคนเรามีความจำดี ๆ เยอะ ๆ ย่อมที่จะทำอะไรได้เยอะแยะ แต่ถ้าความจำเราแย่ หรือ มีน้อย ทำให้อะไรก็ได้น้อย หรือ ไม่ก็ลืมสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เห็นไม่ละครับว่าสำคัญแค่ไหน ^^
ปัจจุบันมือถือรุ่น Top สมัยนี้ มี Ram อยู่ 2 GB ซึ่งปัจจุบันถือว่าเพียงพอ (สำหรับการใช้ในมือถือระบบ Google Pure หรือ มือถือตระกูล Nexus ทั้งหลายนั้นเอง) แต่สำหรับ 2 GB นั้นเราเห็น Size นี้ตั้งแต่ปีที่แล้วช่วงกลาง ๆ ปี ซึ่งเป็นไปได้อยากให้มันเพิ่มไปมากกว่านี้ หรือ เปลี่ยนไปเป็นระบบ DDR 3 เลยก็ยังดี เพราะตัว IU ของแต่ละค่ายสร้างออกมาได้กิน Ram ไปมาก จนทำให้พื้นที่เหลือใช้ดูไม่ค่อยจะเยอะเท่าที่ควร
ถามว่า เจ้่า Ram นี้มันมีน้อยแล้วทำไม จะเพิ่มได้ไหม หรือ จะมีปัญหาอะไรไหม ตอบให้เลยครับว่า ถ้ามี Ram น้อยแล้วสิ่งที่ได้พบคืออาการหน่วง ๆ หรือ อาการช้า ๆ ของเครื่องเวลาเราเล่น ซึ่งอย่างที่รู้ ๆ กัน ระบบ Android นั้นมีระบบเปิดหลายโปรแกรม หรือที่เรียกกันว่า Multitasking ที่เป็นประโยชน์เวลาเราใช้หลาย ๆ app สลับไปมา แต่มันก็มาพร้อมข้อเสีย คือ รับประทาน Ram มากตามไปด้วยครับ ก็เหมือนบอกให้เราไปขับรถ แต่บอกให้อ่านหนังสือไปด้วยพร้อมกัน ถ้าเป็นคนคงจะอัจฉริยะประมาณนั้น (หรือเด็กแนวจะเรียกว่า "เทพ") ส่วนคำถามต่อมาคือ จะเพิ่มได้ไหม บอกได้เลยครับไม่ได้นอกจากซื้อเครื่องใหม่ ^^ เพราะมือถือมันยังไม่ยืดหยุ่นขนาดนั้น
สุดท้าย ก่อนจะซื้อมือถือนอกจาก ดีไซน์ แล้วขอให้อ่านรายละเอียดสเปคเครื่องอีกสักนิดว่า มันเป็นอย่างไร คุ้มกับที่เราจะซื้อไหม ถ้าให้แนะนำเรื่อง Ram ควรสัก 1 GB ขึ้นไป หรือ 2 GB ไปเลยก็จะดีมากไว้เพื่อ อนาคต จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ให้เปลืองตังค์เราป่าว ๆ แต่ถ้าคนงบน้อยก็ให้ทำใจสักนิดนึ่ง เนื่องจาก อาจจะใช้ ๆ ไปแล้ว มีอาการ ช้า ค้าง ต้องมานั้ง เคลีย์ Ram บ่อย ๆ นะครับ ^^
วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556
Spec Cpu 2013 กับ มือถือ
Spec 2013 กับ มือถือ
Spec มือถือทุกวันนี้บอกได้ตรง ๆ ว่าจะแรงไปไหนครับ 555+ ไม่มีลงมีรอ App บ้างซะเลย ^^
แต่ใช่ว่าจะไม่ดีนะ มันก็ดีตรงเวลาเราใช่้แล้วได้ความรู้สึก ไว รวดเร็ว ขึ้น ประเภท ลื่นหัวแตกกันเลยที่เดียว แต่ก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่ติดตามมากับความไว คือ ความร้อน (-*-) อย่างว่าละครับ ข้อดีย่อมมากับข้อเสียเป็นธรรมดา เอาละครับเมื่อมาพูดถึงปีนี้ ปี 2013 มือถือที่เราถือควรมีสเปค CPU เป็นอย่างไรบ้าง ถึงจะดูเข้ายุคเข้าสมัย หรือ ที่เขาเรียกกันว่า "อินเทรนด์" (ไม่ใช่ในรถไฟนะครับ 555+) งั้นผมขออธิบายเลยละกัน
Cpu หรือ หัวใจหลักแหล่งความเร็ว สมัยนี้นั้นถ้าใครตามข่าวด้านนี้ก็คงพอ ๆ ทราบกันแล้วว่า อย่างน้อย ๆ คุณก็ต้องใช้ Quad core หรือ บ้าน ๆ ก็คือ คิดคำนวณทีละ 4 หัว พร้อมกัน ซึ่งในตลาดบ้านเราก็มีถยอย ออกมาบ้างแล้วตั้งแต่ปี 2012 ไม่ว่าจะเป็น S3 , Note 2 แต่ถ้าอ่านรายละเอียด ดี ๆ ในรุ่น Quad core เองก็มีหลายซีรี่ ไม่ว่าจะเป็น Tegra 3 , Exynos 4 , SnapDragon S4 ซึ่งแต่ละรุ่นก็พัฒนาออกมาให้กับมือถือยี่ห้อต่าง ๆ ได้นำมาใช้กัน ส่วนด้านความเร็วนั้นก็มีตั้งแต่ 1.2 - 1.9 GHz และในอนาคต คงจะทะลุ 2.0 GHz ขึ้นไปเป็นแน่
แต่ในปีนี้ มีค่าย Samsung ที่แหวกแนวอยู่สักหน่อย คือ เอา Exynos 5 หรือ ระบบ 8 Core ออกมาเปิดตัว ใน S4 นั้นเอง แต่ก็ยังไม่ทิ้ง SnapDragon S4 Pro (4 core) ที่วิ่งความเร็วที่ 1.9 GHz ซึ่งเป็นตัว Top สุดในตอนนี้ ทำให้ค่าย Samsung ตอนนี้จะดูเหนือคู่แข่งอยู่สักหน่อยสำหรับค่าย Android
สุดท้าย Cpu ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่เป็นตัวชี้วัดให้เราตัดสินใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า เทคโนโลยีนั้นก็ยังมีการแข่งขันไปเลื่อย ๆ ยังไม่สิ้นสุด แต่ถ้าถามถึงจุดอิ่มตัวนั้น บอกได้เลยครับว่า Quad core นั้นน่าจะเล่นได้ไปถึง Android Version 6 หรือ 7 ได้อย่างสบาย ๆ (ไม่นับตัวเรื่องเกมนะครับ เพราะเกมนั้นย่อมกิน Spec มากกว่าอยู่แล้ว)
Spec มือถือทุกวันนี้บอกได้ตรง ๆ ว่าจะแรงไปไหนครับ 555+ ไม่มีลงมีรอ App บ้างซะเลย ^^
แต่ใช่ว่าจะไม่ดีนะ มันก็ดีตรงเวลาเราใช่้แล้วได้ความรู้สึก ไว รวดเร็ว ขึ้น ประเภท ลื่นหัวแตกกันเลยที่เดียว แต่ก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่ติดตามมากับความไว คือ ความร้อน (-*-) อย่างว่าละครับ ข้อดีย่อมมากับข้อเสียเป็นธรรมดา เอาละครับเมื่อมาพูดถึงปีนี้ ปี 2013 มือถือที่เราถือควรมีสเปค CPU เป็นอย่างไรบ้าง ถึงจะดูเข้ายุคเข้าสมัย หรือ ที่เขาเรียกกันว่า "อินเทรนด์" (ไม่ใช่ในรถไฟนะครับ 555+) งั้นผมขออธิบายเลยละกัน
Cpu หรือ หัวใจหลักแหล่งความเร็ว สมัยนี้นั้นถ้าใครตามข่าวด้านนี้ก็คงพอ ๆ ทราบกันแล้วว่า อย่างน้อย ๆ คุณก็ต้องใช้ Quad core หรือ บ้าน ๆ ก็คือ คิดคำนวณทีละ 4 หัว พร้อมกัน ซึ่งในตลาดบ้านเราก็มีถยอย ออกมาบ้างแล้วตั้งแต่ปี 2012 ไม่ว่าจะเป็น S3 , Note 2 แต่ถ้าอ่านรายละเอียด ดี ๆ ในรุ่น Quad core เองก็มีหลายซีรี่ ไม่ว่าจะเป็น Tegra 3 , Exynos 4 , SnapDragon S4 ซึ่งแต่ละรุ่นก็พัฒนาออกมาให้กับมือถือยี่ห้อต่าง ๆ ได้นำมาใช้กัน ส่วนด้านความเร็วนั้นก็มีตั้งแต่ 1.2 - 1.9 GHz และในอนาคต คงจะทะลุ 2.0 GHz ขึ้นไปเป็นแน่
แต่ในปีนี้ มีค่าย Samsung ที่แหวกแนวอยู่สักหน่อย คือ เอา Exynos 5 หรือ ระบบ 8 Core ออกมาเปิดตัว ใน S4 นั้นเอง แต่ก็ยังไม่ทิ้ง SnapDragon S4 Pro (4 core) ที่วิ่งความเร็วที่ 1.9 GHz ซึ่งเป็นตัว Top สุดในตอนนี้ ทำให้ค่าย Samsung ตอนนี้จะดูเหนือคู่แข่งอยู่สักหน่อยสำหรับค่าย Android
สุดท้าย Cpu ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่เป็นตัวชี้วัดให้เราตัดสินใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า เทคโนโลยีนั้นก็ยังมีการแข่งขันไปเลื่อย ๆ ยังไม่สิ้นสุด แต่ถ้าถามถึงจุดอิ่มตัวนั้น บอกได้เลยครับว่า Quad core นั้นน่าจะเล่นได้ไปถึง Android Version 6 หรือ 7 ได้อย่างสบาย ๆ (ไม่นับตัวเรื่องเกมนะครับ เพราะเกมนั้นย่อมกิน Spec มากกว่าอยู่แล้ว)
วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556
แบตเตอรี่ กับ มือถือ
แบตเตอรี่ กับ มือถือ
มือถือทุกวันนี้ พัฒนาไปอย่างเร็วมาก จนเรียกได้ว่าจะแซงโน๊คบุ๊คขนาดเล็กได้สบาย ๆ เฉพาะด้าน สเปคนะครับ เพราะ คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ยังไงก็มีความหลากหลายในการใช้งานมากกว่า แต่สิ่งที่จำเป็นและสำคัญกับมือถือนอกจาก ระบบ นั้นก็คือ แหล่งพลังงาน หรือแบตเตอรี่นั้นเอง
แบตเตอรี่ในปัจจุบันนั้นมีหลายแบบหลายขนาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเภท Lithium Ion ที่มีการกักเก็บและจ่ายพลังงานได้ดี จึงถูกนำมาใช้งานกับ มือถือปัจจุบัน แต่มือถือสมัยนี้นั้น เทคโนโลยีช่างไปไวจนความเพียงพอต่อการใช้งานไม่เรียกว่า ไม่เคยจะเพียงพอก็ว่าได้ ทำให้บางคนก็อาศัย การที่ทำงานอยู่ใกล้ คอม ก็เสียบสายลิงค์ทิ้งไว้กับเครื่อง หรือ ไม่งั้นก็หาซื้อแหล่งพลังงานสำรอง ไว้ต่อชาร์จเวลาไปนอกสถานที่หรือในที่ ๆ ไม่มีปลั๊กไฟ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเล่น มือถือ เราไม่ได้เต็มทีนักเพราะต้องรักษาพลังงานไว้เพื่อให้อยู่ได้เต็มวัน
แบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นแบบของมือถือโดยตรงก็ดี จากแบตเตอรี่สำรองก็ดี หากเราซึ่งจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ยี่ห้อที่ไว้ใจได้ ก็จะให้ความปลอดภัยกับตัวเราขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากเราหาซื้อแหล่งพลังงานเหล่านี้ด้วยที่ราคาแล้วละก็พึ่งไว้เสมอเลยครับว่า ชีวิตคุณอาจจะต้องพกความเสี่ยงไว้ตลอดเวลา ดังคำเขาว่า "ของฟรีไม่มีในโลก" อย่างที่มีข่าวคราวที่ได้ยินได้เห็นกันบ่อย ๆ ถ้าถามว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าดีไม่ดี ตอบเลยครับ ของดีถึงจะไม่มีฟรี แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแพง เราอาจจะใช้การศึกษาจาก Google หรือ หาถามคนที่เคยใช้ว่าใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้างมีอาการอะไรไหม ก็จะพอให้เราได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องขึ้น
สุดท้าย แบตเตอรี่ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ก็เป็นอันตรายต่อเรา เพราะเราไม่รู้หรอกครับว่าวันไหนมันจะเกเรขึ้นมา ดังนั้นจงจำไว้เสมอว่า ไม่ว่าเราจะซื้อยี่ห้อดีแค่ไหน ราคาแพงเท่าใด มันก็ไม่ได้การันตีความปลอดภัยให้เราได้ตลอดไป แต่กับเป็นตัวผู้บริโภคเองละครับว่า เราควรใช้มันอย่างไรถึงจะทำให้ชีวิตปลอดภัย ถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอายุไขที่ต้องเปลี่ยน สภาพแบตที่มีการบวม หากเราคำนึ่งถึงสิ่งนี้บอกได้เลยครับว่า ปลอดภัยหายห่วง
มือถือทุกวันนี้ พัฒนาไปอย่างเร็วมาก จนเรียกได้ว่าจะแซงโน๊คบุ๊คขนาดเล็กได้สบาย ๆ เฉพาะด้าน สเปคนะครับ เพราะ คอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ยังไงก็มีความหลากหลายในการใช้งานมากกว่า แต่สิ่งที่จำเป็นและสำคัญกับมือถือนอกจาก ระบบ นั้นก็คือ แหล่งพลังงาน หรือแบตเตอรี่นั้นเอง
แบตเตอรี่ในปัจจุบันนั้นมีหลายแบบหลายขนาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเภท Lithium Ion ที่มีการกักเก็บและจ่ายพลังงานได้ดี จึงถูกนำมาใช้งานกับ มือถือปัจจุบัน แต่มือถือสมัยนี้นั้น เทคโนโลยีช่างไปไวจนความเพียงพอต่อการใช้งานไม่เรียกว่า ไม่เคยจะเพียงพอก็ว่าได้ ทำให้บางคนก็อาศัย การที่ทำงานอยู่ใกล้ คอม ก็เสียบสายลิงค์ทิ้งไว้กับเครื่อง หรือ ไม่งั้นก็หาซื้อแหล่งพลังงานสำรอง ไว้ต่อชาร์จเวลาไปนอกสถานที่หรือในที่ ๆ ไม่มีปลั๊กไฟ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเล่น มือถือ เราไม่ได้เต็มทีนักเพราะต้องรักษาพลังงานไว้เพื่อให้อยู่ได้เต็มวัน
แบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นแบบของมือถือโดยตรงก็ดี จากแบตเตอรี่สำรองก็ดี หากเราซึ่งจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ยี่ห้อที่ไว้ใจได้ ก็จะให้ความปลอดภัยกับตัวเราขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากเราหาซื้อแหล่งพลังงานเหล่านี้ด้วยที่ราคาแล้วละก็พึ่งไว้เสมอเลยครับว่า ชีวิตคุณอาจจะต้องพกความเสี่ยงไว้ตลอดเวลา ดังคำเขาว่า "ของฟรีไม่มีในโลก" อย่างที่มีข่าวคราวที่ได้ยินได้เห็นกันบ่อย ๆ ถ้าถามว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าดีไม่ดี ตอบเลยครับ ของดีถึงจะไม่มีฟรี แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแพง เราอาจจะใช้การศึกษาจาก Google หรือ หาถามคนที่เคยใช้ว่าใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้างมีอาการอะไรไหม ก็จะพอให้เราได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องขึ้น
สุดท้าย แบตเตอรี่ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่ก็เป็นอันตรายต่อเรา เพราะเราไม่รู้หรอกครับว่าวันไหนมันจะเกเรขึ้นมา ดังนั้นจงจำไว้เสมอว่า ไม่ว่าเราจะซื้อยี่ห้อดีแค่ไหน ราคาแพงเท่าใด มันก็ไม่ได้การันตีความปลอดภัยให้เราได้ตลอดไป แต่กับเป็นตัวผู้บริโภคเองละครับว่า เราควรใช้มันอย่างไรถึงจะทำให้ชีวิตปลอดภัย ถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอายุไขที่ต้องเปลี่ยน สภาพแบตที่มีการบวม หากเราคำนึ่งถึงสิ่งนี้บอกได้เลยครับว่า ปลอดภัยหายห่วง
วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556
สิ่งที่ควรมีก่อนใช้ Smartphone
สิ่งที่ควรมีก่อนใช้ Smartphone
สมัยนี้การมีมือถือ Smartphone สักเครื่องไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาสัมผัสกับวงการนี้ บางคนคงยังไม่ทราบว่า Smartphone แต่ละค่ายนั้นยอมมีข้อตกลงหรือเงื่อนไข ก่อนที่จะให้คุณได้ใช้บริการ ถามว่าแล้วมันคืออะไรละ ตอบให้เลยครับว่า มันก็คือ Mail นั้นเอง
พูดถึง Mail คุณอาจจะนึกถึงจดหมายอิเล็กโทรนิคใช่ครับ นั้นก็ไม่ผิด แต่ Mail สมัยนี้มีความสำคัญพอ ๆ กับบัตรประชาชนประจำตัวเ้ลยก็ว่าได้ ถามว่าทำไมละ บอกให้เลยครับ Mail นอกจะใช้ใน การรับส่งจดหมายแล้ว ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่ไว้ใช้ระบุบตัวตนของคุณเลยก็ว่าได้ เพราะ บนโลก Online นั้นคงไม่มีใครอยากมานั่ง กรอกรหัสบัตรประชาชน เพื่อจะยืนยันตัวเอง แถมรหัสบัตรส่วนใหญ่ก็ใช้ได้แต่ในประเทศตนเองเท่านั้น คนเราส่วนใหญ่จึงหันมาใช้ Mail เป็นสิ่งทดแทนในการยืนยันตัวตน ในการเข้าใช้ลงทะเบียนอะไรต่าง ๆ นา ๆ ครับ

สิ่งที่ควรมีก่อนใช้ Smartphone ละคืออะไร บอกได้เลยครับ นั้นก็คือ Mail นั้นเอง แต่มีเงื่อนไขของแต่ละค่ายอยู่นะครับ คือ Android นั้นใคร ๆ ก็รู้ว่าต้นฉบับไม่ใช่ใครอื่นนั้น ก็คือ Google นั้นเองครับ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องใช้แน่นอนคือ Gmail ทำให้ที่ใช้ Android คุณต้องมีอย่างน้อย 1 Gmail นะครับ ต่อมา Windows Phone ชื่อก็บอกกันชัด ๆ อยู่แล้วครับว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องไม่ใช่ใครอื่น นั้นคือ Microsoft Corporation นั้นเอง ถามว่าเจ้า Microsoft มันเกี่ยวกับ Mail ตรงไหน บอกให้เลยครับ ว่าเครือมันก็คือ Hotmail นั้นเิอง สิ่งที่แน่นอนตามมา คือต้องสมัคร Hotmail ก่อนที่จะใช้ Windows Phone แล้วถ้าถามว่าไม่มีค่ายที่ไม่เฉพาะเจาะจงบ้างหรอ ตอบให้เลยครับว่ามี นั้นคือ Apple หรือ Ios นั้นเอง เพราะทาง Apple ขอเป็น Mail อะไรก็ได้ที่ใช้เพื่อยืนยันตัวตนได้ก็ OK ^^
สุดท้าย ใครที่จะซื้อ Smartphone ซักเครื่อง ขอไว้อย่างนะครับ ถึงคุณบอกว่าคุณไม่เคยมี Mail เลย ในชีวิตนี้ไม่เคยใช้ จะให้ร้านสมัครให้ผมก็ไม่ได้ว่า แต่ช่วยหาอะไรจดไว้ เพื่อวันใดวันนี้คุณอาจจะอยากซื้อ App หรือ ส่งข้อมูลสำคัญทาง Mail หรือแม้กระทั้งคุณเก็บข้อมูลอะไรสำคัญไว้ แล้ววันใดที่ Smartphone คุณพัง หรือ จะเช็คข้อมูลจากทางอื่น คุณจะไปถามคนอื่นว่า Mail ฉันอะไร Pass ฉันอะไร คงจะไม่มีใครตอบคุณได้หรอกนะครับ แม้กระทั้งร้านที่สมัครให้เขาก็คงไม่มานั่งจำของคุณให้เสียเวลา ฉะนั้น Mail ก็คือ ID เราที่จะทำอะไรต่าง ๆ บนโลก Online จงอย่าลืมมันซะละ อิอิ
สมัยนี้การมีมือถือ Smartphone สักเครื่องไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาสัมผัสกับวงการนี้ บางคนคงยังไม่ทราบว่า Smartphone แต่ละค่ายนั้นยอมมีข้อตกลงหรือเงื่อนไข ก่อนที่จะให้คุณได้ใช้บริการ ถามว่าแล้วมันคืออะไรละ ตอบให้เลยครับว่า มันก็คือ Mail นั้นเอง
พูดถึง Mail คุณอาจจะนึกถึงจดหมายอิเล็กโทรนิคใช่ครับ นั้นก็ไม่ผิด แต่ Mail สมัยนี้มีความสำคัญพอ ๆ กับบัตรประชาชนประจำตัวเ้ลยก็ว่าได้ ถามว่าทำไมละ บอกให้เลยครับ Mail นอกจะใช้ใน การรับส่งจดหมายแล้ว ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่ไว้ใช้ระบุบตัวตนของคุณเลยก็ว่าได้ เพราะ บนโลก Online นั้นคงไม่มีใครอยากมานั่ง กรอกรหัสบัตรประชาชน เพื่อจะยืนยันตัวเอง แถมรหัสบัตรส่วนใหญ่ก็ใช้ได้แต่ในประเทศตนเองเท่านั้น คนเราส่วนใหญ่จึงหันมาใช้ Mail เป็นสิ่งทดแทนในการยืนยันตัวตน ในการเข้าใช้ลงทะเบียนอะไรต่าง ๆ นา ๆ ครับ



วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556
Smartwatch
Smartwatch
ถ้าใครใช้ Smartphone ก็คงจะมีคิดกันบ้าง ถ้ามีอะไรที่นาฬิกา Hitech บ้างก็คงจะดี บอกได้เลยครับว่ามีแล้วครับ ที่เรียกกันว่า Smartwatch หลักการทำงานก็ง่าย ๆ คือ ทำหน้าที่ให้ส่วนแจ้งเตือนโดยเชื่อมต่อกับ Smartphone หรือมือถือ ที่เราพกพาอยู่นั้นเอง
Smartwatch นั้นดียังไง บอกได้เลยครับว่ามันก็ไม่ได้วิเศษอะไรมากหรอกครับ แต่แค่นึกถึงบางช่วงบางเวลาที่เราต้องเช็ค ข้อความหรือ Email เร่งด่วน แทนที่เราต้องหยิบมือถือขึ้นมาสักเครื่อง ไหนจะปลดล๊อคหน้าจอ ไหนจะเลื่อนไปหน้าเมนูที่จะอ่าน ซึ่งหลาย Step มากมาย แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นแค่ยกแขนขึ้นมาดูข้อความที่วิ่งเข้ามาจากนาฬิกาข้อมือเรา มันจะดูดีสักแค่ไหนกันเชียว
ถ้าอ่านแล้วอยากใช้มั้ง ทำให้อย่าง ตอบให้เลยครับ เจ้าที่ทำออกมาให้เล่นแล้วก็คือ Sony ครับ ลอง ค้นใน Google ได้โดยใช้คำว่า Smartwatch ก็จะเจอเลยครับ ^^ ฟังค์ชั่นการทำงานก็จะเป็นหลัก ๆ คือ แจ้งเตือน และ ควบคุม ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วครับว่าต้องเชื่อมต่อกับมือถือของ Sony (งานนี้ไม่แน่ใจว่าค่ายอื่นใช้งานได้หรือป่าว แต่ถ้าตามหลักน่าจะใช้ได้ทุกรุ่นของ Android เพราะผมไม่มีของมาลองเลยบอกไม่ได้ 100% ^^) ถ้าถามเรื่องราคาคงจะประมาสัก 3,600 บาท ครับ ใครสนใจอยากลองก็หาซื้อกันได้เลย
สุดท้าย Smartwatch มันก็คือ เทคโนโลยี ตัวหนึ่งที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้แก่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้ใช้ในชีวิตประจำวันกัน และ อีกอย่างหนึ่ง บริษัทอื่นคงไม่นิ่งดูดาย ปล่อยให้ Sony นำหน้าอยู่ฝ่ายเดียวหรอก แล้วมันก็จะเกิดการแข่งขัน และ ท้ายที่สุดผู้บริโภคนี้ละจะได้ผลประโยชน์มากที่สุด ^^

Smartwatch นั้นดียังไง บอกได้เลยครับว่ามันก็ไม่ได้วิเศษอะไรมากหรอกครับ แต่แค่นึกถึงบางช่วงบางเวลาที่เราต้องเช็ค ข้อความหรือ Email เร่งด่วน แทนที่เราต้องหยิบมือถือขึ้นมาสักเครื่อง ไหนจะปลดล๊อคหน้าจอ ไหนจะเลื่อนไปหน้าเมนูที่จะอ่าน ซึ่งหลาย Step มากมาย แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นแค่ยกแขนขึ้นมาดูข้อความที่วิ่งเข้ามาจากนาฬิกาข้อมือเรา มันจะดูดีสักแค่ไหนกันเชียว
ถ้าอ่านแล้วอยากใช้มั้ง ทำให้อย่าง ตอบให้เลยครับ เจ้าที่ทำออกมาให้เล่นแล้วก็คือ Sony ครับ ลอง ค้นใน Google ได้โดยใช้คำว่า Smartwatch ก็จะเจอเลยครับ ^^ ฟังค์ชั่นการทำงานก็จะเป็นหลัก ๆ คือ แจ้งเตือน และ ควบคุม ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วครับว่าต้องเชื่อมต่อกับมือถือของ Sony (งานนี้ไม่แน่ใจว่าค่ายอื่นใช้งานได้หรือป่าว แต่ถ้าตามหลักน่าจะใช้ได้ทุกรุ่นของ Android เพราะผมไม่มีของมาลองเลยบอกไม่ได้ 100% ^^) ถ้าถามเรื่องราคาคงจะประมาสัก 3,600 บาท ครับ ใครสนใจอยากลองก็หาซื้อกันได้เลย

Tamagotchi กับกระแส
Tamagotchi กับกระแส
Tamagotchi คุ้น ๆ กันบ้างไหมครับ กับคำ ๆ นี้ ถ้าคุ้นแสดงว่าคุณเคยผ่านยุคก่อนมาแล้ว ^^ Tamagotchi หรือ สัตว์เลี้ยง IT ที่มีกันมาตั้งแต่ยุดก่อน ๆ ละ สมัยนั้น Hit กันอยู่พอตัวเลยที่เดียว แต่สำหรับผมสมัยนั้นต้อง Digimon ถามว่ามันคืออะไร ตอบเลยครับว่า มันก็คือ Tamagotchi ที่ได้รับอิทธิพลจาก Cartoon เรื่อง Digimon นั้นเอง แล้วถามว่ามันต่างกันอย่างไง บอกได้เลยครับว่าต่างตรงเราสามารถนำสัตว์ที่เราเลี้ยงมาต่อสู้กันได้ ซึ่งการต่อสู้นั้นก็ไม่ได้รุนแรงอะไรแค่เป็นลูกไฟวิ่งไปวิ่งมาแค่นั้นเอง ซึ่งสมัยนั้นเป็นอะไรที่แบบว่า "สุดยอดสุดแล้วครับ ^^"

ปัจจุบันหลังจากที่เจ้า Furby ได้เงียบหายลงไป สิ่งที่ไม่น่าจะบูมก็กลับมาอีกครั้ง นั้นก็คือ เจ้า Tamagotchi นั้นแค่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก ๆ อยู่ครับว่า คนเรานี้ยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องดังเดิม ไม่ว่าโลกจะหมุนไปเพียงใด คนเราก็ยังถวิลหาสิ่งเก่า ๆ อยู่เสมอ แต่การกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไร แค่เน้นไปที่รูปลักษณ์ และ สีสัน ที่ทำออกมาแล้วน่ารัก น่าเอ็นดู
ส่วนถ้าใครถามว่าไม่อยากซื้อแต่อยากเลี้ยงอ่ะ ทำไง บอกให้เลยครับ App Tamagot ช่วยคุณได้ 555+ เพราะรูปแบบ Tamagotchi นั้นมันก็คือโปรแกรมตัวหนึ่งจะนำลงมาแปลงลงใน PC หรือ มือถือ ก็ทำได้ไม่ยากเย็น ครับ สามารถหาโหลดมาลองเลี้ยงกันดูนะครับ
สุดท้าย Tamagotchi มันก็คือโปรแกรมตัวหนึ่งที่อาจจะทำให้คุณหายเหงาได้บ้างเวลา แต่อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่า สัตว์เลี้ยงจริง ๆ เพราะถ้าคุณอยากเลี้ยงสัตว์สักตัวหนึ่งเพราะความน่ารัก พอเวลามันป่วยหรือ แก่ตัวลงมาคุณก็ไม่สนใจ ปล่อยปะละเลยมัน มันก็จะเป็นการทำบาปและเป็นปัญหาให้กับสังคมคือ มีสัตว์จอนจัดอยู่เต็มไปหมด แต่ถ้าคุณเลี้ยง Tamagotchi พอคุณเบื่อคุณก็แค่วางหรือเก็บมันไว้ เพื่อเวลาสักวันหนึ่งที่คุณอยากเล่นอีก ก็จะได้กลับมาเลี้ยงอีกครั้งได้อย่างไม่เป็นปัญหาอะไร ^^


ปัจจุบันหลังจากที่เจ้า Furby ได้เงียบหายลงไป สิ่งที่ไม่น่าจะบูมก็กลับมาอีกครั้ง นั้นก็คือ เจ้า Tamagotchi นั้นแค่ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก ๆ อยู่ครับว่า คนเรานี้ยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องดังเดิม ไม่ว่าโลกจะหมุนไปเพียงใด คนเราก็ยังถวิลหาสิ่งเก่า ๆ อยู่เสมอ แต่การกลับมาครั้งนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไร แค่เน้นไปที่รูปลักษณ์ และ สีสัน ที่ทำออกมาแล้วน่ารัก น่าเอ็นดู


สุดท้าย Tamagotchi มันก็คือโปรแกรมตัวหนึ่งที่อาจจะทำให้คุณหายเหงาได้บ้างเวลา แต่อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่า สัตว์เลี้ยงจริง ๆ เพราะถ้าคุณอยากเลี้ยงสัตว์สักตัวหนึ่งเพราะความน่ารัก พอเวลามันป่วยหรือ แก่ตัวลงมาคุณก็ไม่สนใจ ปล่อยปะละเลยมัน มันก็จะเป็นการทำบาปและเป็นปัญหาให้กับสังคมคือ มีสัตว์จอนจัดอยู่เต็มไปหมด แต่ถ้าคุณเลี้ยง Tamagotchi พอคุณเบื่อคุณก็แค่วางหรือเก็บมันไว้ เพื่อเวลาสักวันหนึ่งที่คุณอยากเล่นอีก ก็จะได้กลับมาเลี้ยงอีกครั้งได้อย่างไม่เป็นปัญหาอะไร ^^
3G - 900 , 850 , 2100 Mhz มันสำคัญไฉน
3G - 900 , 850 , 2100 Mhz มันสำคัญไฉน
เน็ตมือถือสมัยนี้ ทุกคนคงยกจะยกระดับจากคำว่า "EDGE" ซักที เพราะมันช้าไม่ทันใจวัยรุ่นเอาซะเลย 555+ แต่ 3G บ้านเรา Work แล้วจริงหรือ พร้อมใช้แล้วหรือไม่ บอกตรง ๆ เลยครับว่าไม่ เอากันจริง ๆ ที่ Work นะมันแค่จุด ๆ เดียวที่เขานำมาแสดงโชว์ให้เห็นถึงศักยภาพของ 3G , 4G อะไรนั้นละ Work เพราะเขานำตัวปล่อยสัญญาณไปตั้งบริเวณนั้นจึงทำให้ Internet วิ่งเร็วซะใจ แต่จุดอื่นละเป็นอย่างไร ตอบได้เลยครับว่า เหมือนเดิม 555+ เพราะการจะขยับขยายสัญญาณเป็นเรื่องที่ต้องใช้แรงงานคนและทุนทรัพย์มาก เลยบอกเลยนะครับว่า จุด ๆ นี้ทำใจไปก่อนเลยครับ อย่างไว กลางปี อย่างช้าก็ปีหน้านู้นเลยครับ ^^
900 , 850 , 2100 Mhz นั้นเกี่ยวอะไร ตอบอย่างง่ายครับว่า มันก็คือ ถนนกลางอากาศที่ให้ Internet วิ่งนั้นเอง ซึ่งจากการที่ผ่านการประมูล 3G มานั้นทำให้เราได้ถนนเส้นใหม่นั้นก็คือ 2100 Mhz นั้นเองครับ ส่วน 900 Mhz นั้นเป็นถนน AIS เก่า และ 850 Mhzเป็นถนนของ DTAC กับ TRUE
สิ่งที่อยากแนะนำ สำหรับคนที่อยากหาซื้อมือถือเครื่องรุ่นกลาง ๆ หรือ รุ่นล่าง ๆ หรือแม้กระทั้งรุ่น ท๊อปบางตัว สิ่งที่ต้องดูสำหรับการที่เราจะใช้งาน 3G นั้นก็คือ WCDMA/HSDPA ว่าเครื่องที่เราจะซื้อมาใช้นั้นระบุบเลขไว้มีอะไรบ้าง ถ้าระบุบ Tri Band (850/1900/2100 MHz) นั้นก็ยินดีด้วยคุณใช้ได้ทุก brand เลยครับ แต่ถ้า 900 คุณก็ต้องใช้ 3G เฉพาะของ AIS แต่ถ้า 850 คุณก็สามารถเลือกฝั่งได้ว่าจะใช้ของ DTAC หรือ TRUE ก็ได้ครับ ถ้าถามว่าแล้วซื้อเครื่อง 900 มาแต่อยากใช้ เครือข่าย DTAC ไม่ได้หรอ บอกเลยครับว่าใช้ได้ แต่คุณจะใช้ได้แค่เพียง EDGE เท่านั้นครับ
สรุปท้าย อย่างที่เคยเขียน ๆ มาก็จะเลือกซื้อ เลือกใช้อะไรซักอย่างขอให้ใช้ความคิด วิเคราะห์สักนิดนึ่งนะครับว่าสิ่งที่เราจะให้มาใช้นั้นเหมาะสมกับเราบ้างหรือป่าว แล้วจะคุ้มค่าไหมถ้าจะซื้อมา เพราะถ้าซื้อมาแล้วไม่ถูกใจเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยอยากให้เกิด เพราะมันจะเสียทั้ง เงิน เวลา และที่สำคัญคือความรู้สึกที่มีต่อสิ่งของที่เราจะนำมาใช้ครับ ^^
เน็ตมือถือสมัยนี้ ทุกคนคงยกจะยกระดับจากคำว่า "EDGE" ซักที เพราะมันช้าไม่ทันใจวัยรุ่นเอาซะเลย 555+ แต่ 3G บ้านเรา Work แล้วจริงหรือ พร้อมใช้แล้วหรือไม่ บอกตรง ๆ เลยครับว่าไม่ เอากันจริง ๆ ที่ Work นะมันแค่จุด ๆ เดียวที่เขานำมาแสดงโชว์ให้เห็นถึงศักยภาพของ 3G , 4G อะไรนั้นละ Work เพราะเขานำตัวปล่อยสัญญาณไปตั้งบริเวณนั้นจึงทำให้ Internet วิ่งเร็วซะใจ แต่จุดอื่นละเป็นอย่างไร ตอบได้เลยครับว่า เหมือนเดิม 555+ เพราะการจะขยับขยายสัญญาณเป็นเรื่องที่ต้องใช้แรงงานคนและทุนทรัพย์มาก เลยบอกเลยนะครับว่า จุด ๆ นี้ทำใจไปก่อนเลยครับ อย่างไว กลางปี อย่างช้าก็ปีหน้านู้นเลยครับ ^^
สิ่งที่อยากแนะนำ สำหรับคนที่อยากหาซื้อมือถือเครื่องรุ่นกลาง ๆ หรือ รุ่นล่าง ๆ หรือแม้กระทั้งรุ่น ท๊อปบางตัว สิ่งที่ต้องดูสำหรับการที่เราจะใช้งาน 3G นั้นก็คือ WCDMA/HSDPA ว่าเครื่องที่เราจะซื้อมาใช้นั้นระบุบเลขไว้มีอะไรบ้าง ถ้าระบุบ Tri Band (850/1900/2100 MHz) นั้นก็ยินดีด้วยคุณใช้ได้ทุก brand เลยครับ แต่ถ้า 900 คุณก็ต้องใช้ 3G เฉพาะของ AIS แต่ถ้า 850 คุณก็สามารถเลือกฝั่งได้ว่าจะใช้ของ DTAC หรือ TRUE ก็ได้ครับ ถ้าถามว่าแล้วซื้อเครื่อง 900 มาแต่อยากใช้ เครือข่าย DTAC ไม่ได้หรอ บอกเลยครับว่าใช้ได้ แต่คุณจะใช้ได้แค่เพียง EDGE เท่านั้นครับ
สรุปท้าย อย่างที่เคยเขียน ๆ มาก็จะเลือกซื้อ เลือกใช้อะไรซักอย่างขอให้ใช้ความคิด วิเคราะห์สักนิดนึ่งนะครับว่าสิ่งที่เราจะให้มาใช้นั้นเหมาะสมกับเราบ้างหรือป่าว แล้วจะคุ้มค่าไหมถ้าจะซื้อมา เพราะถ้าซื้อมาแล้วไม่ถูกใจเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยอยากให้เกิด เพราะมันจะเสียทั้ง เงิน เวลา และที่สำคัญคือความรู้สึกที่มีต่อสิ่งของที่เราจะนำมาใช้ครับ ^^
วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556
Furby
Furby
Furby หรือ ตุ๊กตา IT ผมรู้จักและได้ยินครั้งแรกจากน้องสาวที่ต้องการหาซื้อ และ ตามมาด้วยข่าวคราวที่เริ่มทยอย ออกมาของเจ้า Furby ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพทั้งหลายที่อาศัยปัจจัยทางการตลาดคือ "ของมีน้อยแต่ความต้องการสูง" ทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่อยากจำจองเจ้า Furby เพื่อเก็งกำไร นั้นตกเป็นเหยื่อ เพราะความโลภ (ถ้าให้ผมมองผมว่าผิดด้วยกันทั้งคู่นั้นละ)
จะถามว่า Furby มันคืออะไรทำไมคนถึง Hit นัก ขอตอบเลยว่า มันก็คือตุ๊กตาดี ๆ ที่ถูกนักประดิษฐ์ใส่แผงวงจรเข้าไปทำให้มันขยับและพูดได้ แค่นั้นยังไม่พอยังสามารถติดต่อสื่อสารกับ App บนมือถือทั้งทาง Apple และ Android โดยอาศัยเป็นช่องทางการให้อาหารเจ้า Furby สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เจ้า Furby Hit ขึ้นมาทันตาเห็น
จากสถานการณ์ที่เจ้า Furby นั้นเป็นของยอด Hit กลับมีแต่ข่่าวด้านลบออกมาตามตลอดไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือมิจฉาชีพไว้ใช้หลอกล่อพ่อค้า แม่ค้า โลภทั้งหลาย , ข่าวถ่าน Furby เป็นอันตรายไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ , ข่าวห้ามมีการจำหน่าย Furby ซึ่งข่าวทั้งหลายนี้มาพร้อมกับความ HOT HIT ของมันจริง ๆ 555+

แต่ปัจจุบัน เจ้า Furby ข่าวคราวเริ่มทยอยจางหายไปเลื่อย ๆ สมแล้วกับการที่มันมาเร็วคงจะไปไวเช่นกัน 555+ แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจหรือไม่ชอบอะไรเจ้า Furby หรอกนะ แค่มองดูแล้วว่า อืมเจ้าคงไม่ต่างอะไรกับ รุ่นพี่อย่าง ตุ๊กตา Blythe แน่เลย คือจะเริ่มเหลือ Hit เล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ ไป แต่ไม่แน่ ถ้ามีรุ่นใหม่มากระแสอาจจะกลับมาแรงอีกครั้ง แต่คราวหน้าอย่าได้พาข่าวร้ายตามมาด้วยเลยนะเจ้า Furby
Furby หรือ ตุ๊กตา IT ผมรู้จักและได้ยินครั้งแรกจากน้องสาวที่ต้องการหาซื้อ และ ตามมาด้วยข่าวคราวที่เริ่มทยอย ออกมาของเจ้า Furby ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพทั้งหลายที่อาศัยปัจจัยทางการตลาดคือ "ของมีน้อยแต่ความต้องการสูง" ทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่อยากจำจองเจ้า Furby เพื่อเก็งกำไร นั้นตกเป็นเหยื่อ เพราะความโลภ (ถ้าให้ผมมองผมว่าผิดด้วยกันทั้งคู่นั้นละ)

จากสถานการณ์ที่เจ้า Furby นั้นเป็นของยอด Hit กลับมีแต่ข่่าวด้านลบออกมาตามตลอดไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือมิจฉาชีพไว้ใช้หลอกล่อพ่อค้า แม่ค้า โลภทั้งหลาย , ข่าวถ่าน Furby เป็นอันตรายไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ , ข่าวห้ามมีการจำหน่าย Furby ซึ่งข่าวทั้งหลายนี้มาพร้อมกับความ HOT HIT ของมันจริง ๆ 555+

แต่ปัจจุบัน เจ้า Furby ข่าวคราวเริ่มทยอยจางหายไปเลื่อย ๆ สมแล้วกับการที่มันมาเร็วคงจะไปไวเช่นกัน 555+ แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจหรือไม่ชอบอะไรเจ้า Furby หรอกนะ แค่มองดูแล้วว่า อืมเจ้าคงไม่ต่างอะไรกับ รุ่นพี่อย่าง ตุ๊กตา Blythe แน่เลย คือจะเริ่มเหลือ Hit เล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ ไป แต่ไม่แน่ ถ้ามีรุ่นใหม่มากระแสอาจจะกลับมาแรงอีกครั้ง แต่คราวหน้าอย่าได้พาข่าวร้ายตามมาด้วยเลยนะเจ้า Furby
Line และทิศทาง
Line และทิศทาง
สมัยนี้ถ้านึกถึง App Chat ดัง ๆ หนึ่งในนั้นย่อมคุ้นชื่อ Line อย่างแน่นอน ซึ่งเป็น App ที่ Hit ตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ Line นั้นพยายามสรรหาสิ่งแปลกมาใช้ในระบบ Chat ซึ่ง App Chat ทั่วไปหลัก ๆ ก็มีเพียง EMO หรือ อักขระพิเศษ เช่น ^^ เป็นต้น ซึ่งผู้คนก็ใช้กันจนชินไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร จนกระทั้ง Line ได้เป็นผู้นำ "สติ๊กเกอร์" หรือเรียกว่าอีก EMO ขยายร่าง 555+ (ที่จริงอยากให้ผสมแนว EMO ของ APP WECHAT เข้ามาด้วยจะดีมากเพราะมันเคลื่อนไหวได้) เป็นสิ่งใหม่และสามารถแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้เล่นได้มาก จนบ้างทีลืมการพิมพ์ไปเลย (ผมก็เป็นสติ๊กเกอร์ตลอด จนไม่ได้พิมพ์ อิอิ )
นอกจาก Line จะเป็น App Chat ประเภทหนึ่งแล้ว ทาง บริษัทยังเล็งเห็นถึงวิถีการเป็นสัตว์สังคมนั้นก็คือ การแข่งขัน , การโอ้อวด ต่าง ๆ จึงทำให้ Line หันมาจับกลุ่ม App อีกประเภทหนึ่งก็คือ "เกม" นั้นเอง ซึ่งการที่เข้ามาจับตลาดทางด้านเกมนั้นถือว่ามาได้ถูกทางกันเลยทีเดียว เพราะทุกเกมเวลาเล่นเสร็จย่อมจะมี คะแนน หรือ แต้มสะสม แสดงออกมาหลังจบเกม ซึ่งถ้าเอาจุดนี้มาผูกกับ App ที่มีการผูกติดรายชื่อผู้ติดต่อใน Line ของเราก็จะเหมือนประกาศว่า "เป็นไงละ ฉันได้ที่หนึ่ง แน่จริงแซงฉันได้ป่าว" และเกมแต่ละแนวที่ทาง Line นำมาให้เล่นนั้น เป็น App Free ทั้งหมด ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้วว่าคนทุกประเภท ย่อมชอบของฟรี 555+ เลยทำให้กระแสนี้ Hit ขึ้นมาได้อย่างไม่อยากเย็นนัก

แต่รู้สึกที่ทาง Line จับมาแล้วไม่ค่อยบูม น่าจะเป็น LINE camera , LINE Card , LINE Brush , LINE Tools , LINE Antivirus และ App ใช้งานอื่น ๆ เพราะ App เหล่านี้ มีคู่แข่งอื่นที่ทำได้ดีกว่าเลยทำให้ผู้ใช้ไม่ค่อยนิยมกันสักเท่าไร (อย่างว่าครับ คนเราจะทำอะไรออกมาแล้วบูมทุกอย่าง คงเป็นไปได้ยาก)
สุดท้าย อย่างที่รู้กัน Line นั้นจุดขายอยู่ที่ สติ๊กเกอร์ ถ้ายังมีบริษัทอื่นมาขอยื่นแบบ สติ๊กเกอร์ Line ของตัวเข้ามาใช้ใน Line ให้ผู้คนได้ใช้ไม่ว่าจะฟรี หรือ เสียตังค์ ก็เชื่อได้ว่า Line ยังคงได้ไปต่อแน่นอนเพราะถ้า สติ๊กเกอร์ ถึงคราวจุดจบเมื่อไร รู้สึกว่าจะมีพ่อค้า Line สติ๊กเกอร์ หัวใสย่อมต้องปิด Job หรือ พวกหาชื่อเสียงจาก การแจก สติ๊กเกอร์ ฟรีของประเทศอื่น ๆ แล้วแจกคนทั่วไปที่ทำไม่เป็นหรือขี้เกียจทำ คงต้อง จบไปตาม ๆ กัน 555+




แต่รู้สึกที่ทาง Line จับมาแล้วไม่ค่อยบูม น่าจะเป็น LINE camera , LINE Card , LINE Brush , LINE Tools , LINE Antivirus และ App ใช้งานอื่น ๆ เพราะ App เหล่านี้ มีคู่แข่งอื่นที่ทำได้ดีกว่าเลยทำให้ผู้ใช้ไม่ค่อยนิยมกันสักเท่าไร (อย่างว่าครับ คนเราจะทำอะไรออกมาแล้วบูมทุกอย่าง คงเป็นไปได้ยาก)
สุดท้าย อย่างที่รู้กัน Line นั้นจุดขายอยู่ที่ สติ๊กเกอร์ ถ้ายังมีบริษัทอื่นมาขอยื่นแบบ สติ๊กเกอร์ Line ของตัวเข้ามาใช้ใน Line ให้ผู้คนได้ใช้ไม่ว่าจะฟรี หรือ เสียตังค์ ก็เชื่อได้ว่า Line ยังคงได้ไปต่อแน่นอนเพราะถ้า สติ๊กเกอร์ ถึงคราวจุดจบเมื่อไร รู้สึกว่าจะมีพ่อค้า Line สติ๊กเกอร์ หัวใสย่อมต้องปิด Job หรือ พวกหาชื่อเสียงจาก การแจก สติ๊กเกอร์ ฟรีของประเทศอื่น ๆ แล้วแจกคนทั่วไปที่ทำไม่เป็นหรือขี้เกียจทำ คงต้อง จบไปตาม ๆ กัน 555+
มือถือกันน้ำ
มือถือกันน้ำ
มือถือใคร ๆ รู้ว่าเป็นอุปรกรณ์อิเล็กโทรนิค ซึ่งอิเล็กโทรนิคใคร ๆ ก็รู้อีกเช่นกันว่าไม่ถูกกับน้ำ แต่มนุษย์เรานั้นก็ยังมีความต้้องการในการใช้งานทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะแดดแรงแค่ไหน ไม่ว่าจะฝนตกเพียงใด ก็อยากที่จะให้อุปกรณ์ที่เรียกว่ามือถือของเรานั้นคงทนตามไปด้วย จะดีแค่ไหนถ้าเราพกมือถือแล้วไร้กังวลเรื่องพวกนี้ แต่ปัจจุบันเรื่องพวกนี้เริ่มมีวิวัฒนาการเข้ามาบ้างแล้วถ้าใครติดตามข่าวไอทีมาบ้าง
ความรู้กันสักเล็กน้อย มาตรฐาน Ingress Protection Ratings หรือเรียกสั้นว่า IP ที่เป็นมาตราฐานใหม่ที่จะใช้เป็นตัวบงบอกถึง สิ่งแปลกปลอมที่จะเข้ามาในเครื่อง หรือ บ้าน ๆ เรียกว่า เครื่องคุณจะถึกแค่ไหน นั้นเอง ซึ่งถ้าเครื่องใครระบุว่า "มีมาตรฐาน IP-67, IP-68" จงภูมิใจไว้เถอะเครื่องคุณถึกแน่นอน 555+
ถามว่าแล้วตอนนี้มีออกมาแล้วหรือยัง ตอบได้เลยครับว่ามีแล้วครับ ซึ่งนาทีทองช่วงนี้ขอยกให้ บริษัท Sony ไปเลยครับ เพราะเราชูเรื่องนี้เป็นจุดเด่นในการขาย มาได้สักพักแล้วครับ และ ยิ่งรุ่นหลัง ๆ ความเร็วของทางค่ายก็พัฒนาจนมีความเร็วที่น่าเล่นเลยที่เดียว (แต่ขอติ นิดนึ่งตรงที่ว่า "พี่ Sony ครับช่วยออกมือถือให้ทั้งยุคสักทีจะได้ไหมครับเนี่ย" อย่าง xperia z เนี่ยความจริงแล้วต้องออกในยุค S3 ถึงจะถูกแต่พี่ท่านกลับมาออกในยุค S4 ซึ่งไม่ถูกไม่ควรเลยจริง ๆ ครับ 555+) ถ้าถามว่า ถามอย่างนั้นใครจะใช้มือถือแน่นี้ต้องรุ่น Top อย่างเดียวหรอ ตอบเลยครับว่า รุ่นราคาระดับกลางก็มีครับ แต่ความเร็วเครื่องอาจจะไม่โดนใจสักเท่าไร

ถ้้าถามว่า บริษัท Sony ออกมือถือมากันน้ำดีที่สุดใช่ไหม ตอบเลยครับว่าไม่ ทาง Sony แค่พยายามลดช่องว่างในการที่น้ำจะเข้าเครื่องให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง แล้วถามต่อว่าอ้าวอย่างงี้ก็ยังไม่มีดีกว่านี้หรอ ตอบได้เลยว่ามีแต่ยังไม่เสถียรนักบริษัทต่าง ๆ เลยยังไม่นำมาใช้ แล้วถ้าถามว่าคืออะไร ตอบได้เลยครับว่าก็คือ สารนาโน ของ บริษัท ลิควิเพล (Liquipel) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย นั้นเอง ซึ่งสามารถกันน้ำได้อย่างแน่นอน แต่ไม่ชัวส์เรื่องเงื่อนไขเวลาว่าได้นานเพียงใดและลึกเพียงใด (พี่ครับถ้าพี่จะเอาลงน้ำเป็น 100 เมตรผมแนะนำไปนั่งเรือดำน้ำแล้วถ่ายรูปเอาดีกว่าครับ 555+)
สุดท้ายที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเห็นว่าใกล้จะ 13 เมษายน แล้วนะครับ อย่าถามนะว่าวันอะไร บอกใบ้ไว้นิดนึ่งละกันว่าวันเปียกครับ 555+ ซึ่งใครออกไปไหนมาไหนอย่าลืมหาซองกันน้ำให้มือถือนะครับเดี๋ยวกลับบ้าน มือถือกลายเป็นที่ทับกระดาษไปซะปล่าว ๆ 555+ (ขอเตือน ประเภทมือถือตกน้ำมาจับแช่ในถังข้าวสารเป็นความคิดที่ผิดถนัดเลยครับ ช่างบ่นมานักต่อนัก ว่า " จะทำให้เครื่องแห้งหรือจะทำบอร์ดมือถือพังกันแน่เนี่ย T_T ")
มือถือใคร ๆ รู้ว่าเป็นอุปรกรณ์อิเล็กโทรนิค ซึ่งอิเล็กโทรนิคใคร ๆ ก็รู้อีกเช่นกันว่าไม่ถูกกับน้ำ แต่มนุษย์เรานั้นก็ยังมีความต้้องการในการใช้งานทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะแดดแรงแค่ไหน ไม่ว่าจะฝนตกเพียงใด ก็อยากที่จะให้อุปกรณ์ที่เรียกว่ามือถือของเรานั้นคงทนตามไปด้วย จะดีแค่ไหนถ้าเราพกมือถือแล้วไร้กังวลเรื่องพวกนี้ แต่ปัจจุบันเรื่องพวกนี้เริ่มมีวิวัฒนาการเข้ามาบ้างแล้วถ้าใครติดตามข่าวไอทีมาบ้าง


ถามว่าแล้วตอนนี้มีออกมาแล้วหรือยัง ตอบได้เลยครับว่ามีแล้วครับ ซึ่งนาทีทองช่วงนี้ขอยกให้ บริษัท Sony ไปเลยครับ เพราะเราชูเรื่องนี้เป็นจุดเด่นในการขาย มาได้สักพักแล้วครับ และ ยิ่งรุ่นหลัง ๆ ความเร็วของทางค่ายก็พัฒนาจนมีความเร็วที่น่าเล่นเลยที่เดียว (แต่ขอติ นิดนึ่งตรงที่ว่า "พี่ Sony ครับช่วยออกมือถือให้ทั้งยุคสักทีจะได้ไหมครับเนี่ย" อย่าง xperia z เนี่ยความจริงแล้วต้องออกในยุค S3 ถึงจะถูกแต่พี่ท่านกลับมาออกในยุค S4 ซึ่งไม่ถูกไม่ควรเลยจริง ๆ ครับ 555+) ถ้าถามว่า ถามอย่างนั้นใครจะใช้มือถือแน่นี้ต้องรุ่น Top อย่างเดียวหรอ ตอบเลยครับว่า รุ่นราคาระดับกลางก็มีครับ แต่ความเร็วเครื่องอาจจะไม่โดนใจสักเท่าไร

ถ้้าถามว่า บริษัท Sony ออกมือถือมากันน้ำดีที่สุดใช่ไหม ตอบเลยครับว่าไม่ ทาง Sony แค่พยายามลดช่องว่างในการที่น้ำจะเข้าเครื่องให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง แล้วถามต่อว่าอ้าวอย่างงี้ก็ยังไม่มีดีกว่านี้หรอ ตอบได้เลยว่ามีแต่ยังไม่เสถียรนักบริษัทต่าง ๆ เลยยังไม่นำมาใช้ แล้วถ้าถามว่าคืออะไร ตอบได้เลยครับว่าก็คือ สารนาโน ของ บริษัท ลิควิเพล (Liquipel) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย นั้นเอง ซึ่งสามารถกันน้ำได้อย่างแน่นอน แต่ไม่ชัวส์เรื่องเงื่อนไขเวลาว่าได้นานเพียงใดและลึกเพียงใด (พี่ครับถ้าพี่จะเอาลงน้ำเป็น 100 เมตรผมแนะนำไปนั่งเรือดำน้ำแล้วถ่ายรูปเอาดีกว่าครับ 555+)

Os และ User (มือถือ)
Os และ User (มือถือ)
OS หรือเรียกอีกอย่างว่าระบบปฏิบัติการ ภาษาบ้าน ๆ ก็คือหน้าต่างการใช้งานของเครื่องนั้นเอง ซึ่งในปัจจุบันที่เรารู้ ๆ กันอยู่ที่ดัง ๆ ก็จะมีอาทิเช่น Apple , Android , Windows Mobile และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละค่าย ต่างก็รังสรรค์เพื่อให้ระบบของตน เป็นสิ่งที่ User หรือ ผู้ใช้ จะใช้งานง่ายและประทับใจในการใช้งาน
บริษัทต่าง ๆ รู้ดีถึงจุดขายในจุดนี้คือ "ความต้องการที่ไม่สิ้นสุด" จึงทำให้ผลิตลูกเล่นต่าง ๆ ออกมาในเครื่องของตัวเอง อย่างหลากหลาย เต็มไปหมด แต่อย่าลืมนะครับว่า ท่านลูกค้าทั้งหลายที่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ แบบครบครั้น จะพบได้แต่รุ่น Top ๆ เ้ท่านั้น ถามว่า แล้วถ้าไม่ใช่รุ่น Top จะไม่มีโอกาสสัมผัสเลยงั้นหรอ ตอบได้เลยครับว่ามี แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเท่านั้นเอง ^^
User ละคืออะไร User ก็คือคนอย่าง เรา ๆ ท่าน ๆ นี้ละครับ จะบอกว่าผู้บริโภคคนสุดท้ายก็จะดูไม่ถูกนัก เพราะถ้าเราเอาไปขายต่อ ก็ไม่ใช่คนสุดท้ายละ จริงไหมครับ ^^ ถ้าถาม User จริง ๆ แล้วต้องการอะไร มั้ง
อันดับแรกคือ เอาไว้โชว์หรืออวด (คิดแบบคนยุคใหม่นะครับ) ยิ่งถ้าออกมาใหม่ ๆ ได้มีถือ มีใช้ก่อนใคร นี้เรียกได้ว่าไปไหนก็เป็นจุดสนใจ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วแต่แรกเดิมที่นั้นมีไว้ติดต่อสื่อสารกัน เพื่อให้รู้ข่าวคราวซึ่งกันและกัน แต่คนยุคใหม่ ๆ คงลืมไปแล้วละมั่้งครับ 555+ (ผมเองก็เป็น)
อันดับต่อมาคืออายุการใช้ง่าย หรือเรียกกันว่าใช้ยาว ๆ ไม่ต้องชาร์ทบ่อยจะได้ไหม เนื่องจากโทรศัพท์ยุคแรก ๆ ลูกเล่น ฟังค์ชั่นอะไรต่าง ๆ ก็ยังไม่มีมากมายเหมือนสมัยนี้ ทำให้การจ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่เครื่องนั้นจ่ายเพียงเล็กน้อย ทำให้การใช้งานจึงมีอายุยืนนานเป็น อาทิ ๆ แต่ปัจจุบันนั้น มือถือนั้นมันไม่ใช่แค่มือ แต่มันคือ smartphone หรือพูดง่าย ๆ คือ มือถือร่วมร่างกับ คอมพิวเตอร์นั้นเอง ซึ่งความสามารถเพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย อีกทั้งการแสดงผลหน้าจาก ที่พัฒนาการมาเลื่อย ๆ จาก ขาว-ดำ เป็นจอสี , ขนาดจอจากไม่กี่นิ้ว ก็ขยายไปถึง 5-6 นิ้วกันเลยที่เดียว ซึ่งแน่นอนว่าการพัฒนาขึ้นมาแบบนี้ย่อมต้องใช้การคำนวณและแรงไฟที่มากพอที่จะทำให้มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นการยากที่แต่ละค่ายจะได้วิธีการแก้ไขปัญหานี้ได้จึงอาศัยการที่จอใหญ่ขึ้นก็ทำให้แบตมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย เพื่อตอบโจทย์ที่พอสมน้ำสมเนื้อที่ดีที่สุดที่จะทำได้
อันดับสุดท้าย(ที่จริงยังมีอีกเยอะแต่เอาหลัก ๆ ที่ได้พบเจอจากโลก Online)คือ App ที่สามารถเข้าถึงกันได้หรือให้ความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เกม , Chat , ดูหนัง-ดูทีวี , ฟังเพลง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึง App ไหนที่ตอบโจทย์ User ได้เยอะก็จะได้ทั้งชื่อเสียงและรายได้ที่จะตามมาไม่ว่าจะเป็นจาก การซื้อ App , การซื้อฟังค์ชั่นเพิ่มใน App , การแอบแฝงโฆษณาเข้ามา และอื่น ๆ อีกหลายทาง ซึ่งถามว่า แบบนี้ลูกค้าเสียอยู่ฝ่ายเดียวสิ ตอบเลยครับว่า เราก็ได้ค่าตอบแทนคือความรู้สึกพึงพอใจเวลาที่ได้ใช้ App ๆ นั้น และอีกอย่างก็เป็นการสนับสนุนให้คนเหล่านี้ได้คิดค้น App แปลกๆ ใหม่ ๆ ให้เราได้ใช้งานอีกด้วยครับ (เครื่อง jailbreak และ Root ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ ^^)
สุดท้ายละครับ สิ่งที่อยากจะบอกคือ OS ไม่ว่าจะเป็นระบบไหน ๆ ฐานสำคัญที่สุดคือ User ท่านออกแบบมาดีแค่ไหนสุดท้ายก็ดีได้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง ไม่สามารถดีได้ตลอดถ้าไร้ซึ่งการพัฒนา และอีกหนึ่งที่ได้พบเจอคือ ฐาน App ที่จะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า User นั้นจะหันมาใช้มากน้อยเพียงใด ถ้าเครื่องคุณดีเลิศแต่ App ที่ใช้ไร้ซึ่งการพัฒนาหรือไม่มีเพิ่มเติมใน OS นั้น ๆ ก็ถือว่าคุณยังไม่ผ่านที่จะอยู่วงการ OS
ฉะนั้น User ท่านหลายก่อนจะซื้ออะไรก็ควรตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองดี ๆ อาจจะอาศัยการถามเพื่อน ญาติ หรือคนรู้จัก ว่าระบบนั้นดีไหม ระบบนี้ดีไหม เพื่อไม่ให้ซื้อมาแล้วต้องมาผิดหวังว่า ทำไมฉันซื้อมาแล้ว เล่นแบบนั้นกับเพื่อนไม่ได้ เล่นแบบนี้ก็ไม่ได้ ท้ายที่สุดก็จะมีไม่กี่ทาง ให้คุณเลือกว่าจะทนใช้ต่อ หรือ ขายทิ้ง หรือ ยกให้ญาติพี่น้องดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดถ้าคนเรารู้จะที่จะคิด วิเคราะห์ แล้วจึงตัดสินใจเลือก (ถ้าคนรวยผมไม่ว่านะครับ ^^ ซื้อวัน 2 วันแล้วขายทิ้งก็ไม่ว่าครับ)
OS หรือเรียกอีกอย่างว่าระบบปฏิบัติการ ภาษาบ้าน ๆ ก็คือหน้าต่างการใช้งานของเครื่องนั้นเอง ซึ่งในปัจจุบันที่เรารู้ ๆ กันอยู่ที่ดัง ๆ ก็จะมีอาทิเช่น Apple , Android , Windows Mobile และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละค่าย ต่างก็รังสรรค์เพื่อให้ระบบของตน เป็นสิ่งที่ User หรือ ผู้ใช้ จะใช้งานง่ายและประทับใจในการใช้งาน
บริษัทต่าง ๆ รู้ดีถึงจุดขายในจุดนี้คือ "ความต้องการที่ไม่สิ้นสุด" จึงทำให้ผลิตลูกเล่นต่าง ๆ ออกมาในเครื่องของตัวเอง อย่างหลากหลาย เต็มไปหมด แต่อย่าลืมนะครับว่า ท่านลูกค้าทั้งหลายที่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ แบบครบครั้น จะพบได้แต่รุ่น Top ๆ เ้ท่านั้น ถามว่า แล้วถ้าไม่ใช่รุ่น Top จะไม่มีโอกาสสัมผัสเลยงั้นหรอ ตอบได้เลยครับว่ามี แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเท่านั้นเอง ^^




สุดท้ายละครับ สิ่งที่อยากจะบอกคือ OS ไม่ว่าจะเป็นระบบไหน ๆ ฐานสำคัญที่สุดคือ User ท่านออกแบบมาดีแค่ไหนสุดท้ายก็ดีได้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง ไม่สามารถดีได้ตลอดถ้าไร้ซึ่งการพัฒนา และอีกหนึ่งที่ได้พบเจอคือ ฐาน App ที่จะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า User นั้นจะหันมาใช้มากน้อยเพียงใด ถ้าเครื่องคุณดีเลิศแต่ App ที่ใช้ไร้ซึ่งการพัฒนาหรือไม่มีเพิ่มเติมใน OS นั้น ๆ ก็ถือว่าคุณยังไม่ผ่านที่จะอยู่วงการ OS
ฉะนั้น User ท่านหลายก่อนจะซื้ออะไรก็ควรตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองดี ๆ อาจจะอาศัยการถามเพื่อน ญาติ หรือคนรู้จัก ว่าระบบนั้นดีไหม ระบบนี้ดีไหม เพื่อไม่ให้ซื้อมาแล้วต้องมาผิดหวังว่า ทำไมฉันซื้อมาแล้ว เล่นแบบนั้นกับเพื่อนไม่ได้ เล่นแบบนี้ก็ไม่ได้ ท้ายที่สุดก็จะมีไม่กี่ทาง ให้คุณเลือกว่าจะทนใช้ต่อ หรือ ขายทิ้ง หรือ ยกให้ญาติพี่น้องดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดถ้าคนเรารู้จะที่จะคิด วิเคราะห์ แล้วจึงตัดสินใจเลือก (ถ้าคนรวยผมไม่ว่านะครับ ^^ ซื้อวัน 2 วันแล้วขายทิ้งก็ไม่ว่าครับ)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)